ร้านแนะนำแกงไตปลา

https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfa
1/v/t1.0-9/19092_125168814318599_1185338253_n.jpg?
oh=f3a078dc5a94ed197a5a1a60568f4905&oe=5550ECBB&__
gda__=1431348997_09829b110952df41dd7cd19d20bd300c

แกงไตปลาป้านกแก้ว

ถนนอิสรภาพ บางกอกน้อย, 10700

แกงไตปลา คั่วกลิ้งหมู คั่วกลิ้งไก่ อาหารไทยตามสั่ง สั่งซื้อทางหมายเลขโทรศัพท์ 087 4359559

FACEBOOK : แกงไตปลาป้านกแก้ว

ข้อมูลจาก  FACEBOOK : แกงไตปลาป้านกแก้ว

http://p.isanook.com/tr/0/ud/268/1340467/0344.jpg

กวงเฮง“ ข้าวแกงหรอยอย่างแรง

        ร้านนี้มีแกงหลายหม้อให้เลือกชิม ทุกหม้อรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านแบบฉบับคนปักษ์ใต้ ไม่ว่าจะเป็นหลนไตปลา แกงเหลือง แกงไตปลา คั่วกลิ้ง ลูกเนียงผัดพริกแกง ถ้าวันไหนไปเจอเขาแกงกะทิใบเหลียงปลาย่าง ขอแนะนำให้สั่งเร็วพลัน เพราะมันอร่อยมาก รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องแกง ทั้งใบเหลียงก็อ่อนหวานมันเข้ากันดีกับเนื้อปลาย่าง

ที่ตั้ง:ถ. ศาลาแดง อ. เมืองชุมพร เปิดเวลา 11.00-17.00 น. โทร. 0-7750-1079

ข้อมูลจาก  http://travel.sanook.com/1340467/

ร้าน ณ หาดใหญ่

http://photo.wongnai.com/photos/2012/08/17/075b37e9c0bd48869539415c71ffc8c4.jpg

       อาหารใต้สไตล์หาดใหญ่ และมีทั้งเมนูที่เป็ดจัดเผ็ดจริง เช่นแกงเหลือง แกงไตปลากุ้งสด น้ำยาปู สะตอผัดกะปิ-กุ้งสด แกงคั่วสับปะรด คั่วกลิ้ง ทุกเมนูใช้เครื่ิองแกงที่โขลกเองกับมือ จึงใส่เครื่องปรุงต่างๆ อย่างไม่ยั้ง ทำให้ได้น้ำพริกแกงที่รสจัดถึงใจ หรือเมนูอาหารใต้แบบที่ไม่เผ็ด เช่น ข้าวยำ น้ำพริกกระปิกุ้งเสียบ ใบเหลียงผัดไข่ ที่เป็นเมนูยอดนิยมไม่แพ้เมนูรสจัด และพิเศษกว่าร้านอาหารใต้ร้านอื่น ตรงที่ที่ ณ หาดใหญ่ มีเมนูอาหารใต้สไตล์คนจีนฮกเกี้ยนที่ตั้งรกรากอยู่ที่หาดใหญ่ด้วย ซึ่งจะเมนูสไตล์จีนฮกเกี้ยนนี้ จะเป็นเมนูที่มีรสอ่อนๆ เช่น หมูค้องผัดไช่กัว หน่อไม้ทะเลผัดคะน้าฮ่องกง รากบัวตุ๋นกระดูกหมูกับถั่วลิสง ซึ่งเมนูรสอ่อนๆ นี้จะช่วยละระดับความเผ็ดร้อนของอาหารหนึ่งสำรับลงได้ จะได้ไม่มีแต่ของเผ็ดๆ จนน้ำตาเล็ดแสบลำไส้มากเกินไป ถือเป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้แบบชาวหาดใหญ่

ตั้งอยู่ที่ ถนนประชาอุทิศ (ร้านอยู่ตรงข้ามปั๊ม ปตท. เลยแยกเหม่งจ๋ายมาประมาณ 10 เมตร) สามเสนนอก , ห้วยขวาง , กรุงเทพมหานคร 10310

เบอร์ติดต่อ02-691-6846, 081-911-7014, 089-385-1560

เวลาเปิดบริการ จ. : 11:30 - 23:00 พ. - อา. : 11:00 - 23:00

ข้อมูลจาก  http://www.wongnai.com/listings/northern-and-southern-food

 http://www.wongnai.com/listings/northern-and-southern-food

http://ed.files-media.com/ud/images/1/23/67959/13635_
cf80de4dd727ac27577210ee64abff7d-620x392.jpg

ร้านบ้านไอซ์ 

      บ้านไอซ์ ร้านอาหารปักษ์ใต้ เปิดมานานกว่า 20 กว่าปี ด้วยรสชาติอาหารที่เข้มข้น จัดจ้าน มีเมนูอร่อยให้เลือกกินมากมาย อาทิ ข้าวยำคุณ ปู่,ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้,สะตอผัดกุ้ง,คั่วกลิ้งหมู,แกงส้มชะอมทอด,ปลาทอดขมิ้น เป็นต้น เดินทางสะดวกจากถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดเสมียนนารี ผ่านสี่แยกไฟแดงตรงไปกลับรถหน้าตลาดประชานิเวศน์ ขับมาจะเห็นร้านบ้านไอซ์ ตั้งอยู่ซ้ายมือ ป้ายร้านเด่นสะดุดตา

ข้อมูลจาก http://www.painaidii.com/business/133132/ice-house-restaurant-10900/lang/thTh/

ขั้นตอนการทำแกงไตปลา

1. เริ่มจากหั่นผัก-เด็ดผักทั้งหลายก่อน (ฟักทอง หน่อไม้ มะเขือพวง ถั่วฝักยาว) หากทำเครื่องแกงเองก็นำส่วนผสมมาโขลกให้เข้ากัน

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/3(1072).jpg

 2. ตั้งหม้อ ใส่น้ำ 6 ถ้วยตวง ใส่ข่าทุบ ตะไคร้หั่นท่อนทุบ ใบมะกรูด และไตปลาลงไป ต้มจนกระทั่งไตปลาละลาย (ตักข่ากับตระไคร้ออก)

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/56(10).jpg

3. ใส่เครื่องแกงลงไปทั้งหมด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปึก และ น้ำมะขามเปียก

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/78(4).jpg

4. พอเดือดปุดๆใส่หน่อไม้หั่นท่อนลงไปก่อน (ขั้นตอนนี้โดยปกติจะใส่ผักทั้งหมดไปพร้อมกันเคี่ยวให้ผักเปื่อยได้เลยนะคะ) แต่ใส่หน่อไม้ลงไปก่อน เคี่ยวไฟอ่อน 20 นาทีให้เข้าเนื้อหน่อไม้ (ก่อนที่จะใส่ผักอย่างอื่นที่สุกง่าย ส่วนตัวไม่ชอบผักเละมากนัก)

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/9(299).jpg

5. จากนั้นจึงใส่ฟักทอง ถั่วฟักยาว มะเขือพวง โดยใช้ฟักทองเป็นเกณฑ์ หากฟักทองสุกนิ่ม ใส่ปลาย่างและใบมะกรูด คนให้เข้ากัน ปิดไฟ พร้อมเสริฟ (แต่ถ้าใครชอบผักนิ่มๆก็เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนกว่าจะนิ่มในแบบที่ต้องการได้เลยค่ะ) (ครั้งนี้ใส่มะขามเปียกเพื่อตัดรสไม่ให้เค็มโดดจนเกินไปนะคะ แต่แกงจะต้องไม่มีรสเปรี้ยวเลยนะ เพื่อนๆทำลองใส่ทีละน้อย และชิมดูนะคะ ด้วยสูตรนี้ ไม่ได้ปรุงรสเพิ่มเลยนะ ไตปลาเค็มอยู่แล้ว ตัดรสด้วยน้ำมะขาม เพิ่มความกลมกล่อมด้วยน้ำตาลปึกอย่างดี กลมกล่อมพอดีเชียว)

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/101112.jpg

6. เสร็จแล้วก็ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ น้ำเข้มข้นเข้าเนื้อได้ใจ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานกับเส้นขนมจีนก็ได้ความอร่อยเพิ่มไปอีกแบบนึงเลยค่ะ

http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/101112.jpg

หรือไม่เข้าใจชมวีดีโอขั้นตอนการทำได้เลย

https://www.youtube.com/watch?v=Cn6gPZC5LjE

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://social.tnews.co.th/content/119654/

 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนทำแกงไตปลา

http://go2askanne.files.wordpress.com/2013/10/e0b981e0b881e0b887e0b984e0b895e0b89be0b8a5e0b8b2.jpg

ปลากรอบ

http://www.bloggang.com/data/c/chim/picture/1352165152.jpg

เครื่องปรุง

ไตปลา                                1/2     ถ้วย

น้ำเปล่าประมาณ                   2-3     ถ้วย

ส้มแขก                               3       ชิ้น

หรือมะขามเปียกคั้นน้ำ             1/4    ถ้วย

กุ้งสด                                  300    กรัม

ปลาย่างหรือปลากรอบ             100    กรัม

น้ำตาลปึก                            1       ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูด                             4      ใบ

ข่า 10 แว่นบางๆ หรือหั่น          1      ช้อนโต๊ะ

ตะไคร้หั่นละเอียด                    6      ช้อนโต๊ะ

ผิวมะกรูด                             1      ช้อนโต๊ะ

ขมิ้นสดยาวประมาณ 2 นิ้วหั่น     1      ช้อนโต๊ะ

กะปิ                                    2      ช้อนโต๊ะ

หอมหั่นหยาบ

https://narinch.files.wordpress.com/2011/06/photo0439_800x600.jpg

เครื่องปรุงน้ำพริก

พริกขี้หนูแห้ง 40 เม็ด

พริกขี้หนูสด 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทย 10 เม็ด

กระเทียม 1/2 ถ้วย

หอมหั่นหยาบๆ

เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

หน่อ

http://www.thaihealth.or.th/data/content/23983/cms/e_bgmqsvxy1278.jpg

ผักที่ใช้ใส่แกง

ถั่วฝักยาว

ฟักทอง

หน่อไม้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaicookingrecipe.com/food/21/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2.html

 ประโยชน์ของแกงไตปลา

http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2011/08/you02010854p1.jpg&width=360&height=360

            ชีวิตของคนภาคใต้เกี่ยวข้องกับท้องทะเล อาหารการกินส่วนใหญ่มาจากทะเล ซึงถ้ามีมากเกินรับประทานก็จะนำอาหารที่ได้จากทะเลนั้นมาทำการถนอมอาหาร

           แกงไตปลามีรสจัด จึงต้องรับประทานร่วมกับผักหลาย ๆ ชนิดควบคู่กันไปด้วย เพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อนลง ซึ่งคนภาคใต้เรียกว่า ผักเหนาะ ผักเหนาะของภาคใต้มีหลายอย่าง เช่น สะตอ ลูกเนียง ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักบางอย่างก็เป็นผักชนิดเดียวกับภาคกลาง เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ แตงกวา หน่อไม้

         แกงไตปลามีรสเผ็ด อาหารที่มีรสเผ็ดจะมีคุณสมบัติช่วยให้เจริญอาหาร แกงไตปลาใช้พริกขี้หนูจำนวนมากใส่เป็นเครื่องแกง ซึ่งพริกขี้หนูมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้คลื่นไส้อาเจียน แก้โรคบิด เม็ดพริกมีสารที่สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนดีขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ท่านที่เป็นโรคเกี่ยวกับตาหรือผู้ป่วยอาการเจ็บคอ คอแห้ง ไอ ไม่ควรรับประทานพริกขี้หนูจำนวนมากควรรับประทานจำนวนน้อย

สรรพคุณทางยาจากส่วนประกอบของแกงไตปลา

http://www.farmthailand.com/webboard/data/
attachment/forum/201409/30/134022s28xv5zvo1q1hvvo.jpg

-ใบมะกรูด รสปร่ากลิ่นหอมติดร้อน ใช้ปรุงอาหารช่วยดับกลิ่นคาว แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้ลมจุกเสียด

http://www.monmai.com/media/2012/12/kaminchanhau.jpg

-ขมิ้นชัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เจริญอาหาร ขับลม รักษาโรคผิวหนัง

http://1.bp.blogspot.com/.jpg

             
 -ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้

http://www.globalfashionreport.com/images/th/412694.jpg

-หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด

http://images.thaiza.com/26/26_20100825101849..jpg

-กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรียและไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด

http://frynn.com/wp-content/uploads/2013/07/Lemongrass-1.jpg

- ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหารและขับเหงื่อ

http://www.the-than.com/samonpai/w7-2.jpg

-พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อยอาหาร

http://frynn.com/wp-content/uploads/2013/07/Pepper-4.jpg

พริกไทยเม็ด รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร

แกงไตปลาน้ำข้น 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 759 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย

- น้ำ                         453.4          กรัม

- โปรตีน                    86.5            กรัม

- ไขมัน                      8.3             กรัม

- คาร์โบไฮเดรต            83.6           กรัม

- กาก                        5.4             กรัม

- แคลเซียม                 448.9          มิลลิกรัม

- ฟอสฟอรัส                302.8          มิลลิกรัม

- เหล็ก                      18.8            มิลลิกรัม

- เรตินอล                   0.88            ไมโครกรัม

- เบต้า-แคโรทีน            24              ไมโครกรัม

- วิตามินเอ                  2545.2        IU

- วิตามินบีหนึ่ง             55.46         มิลลิกรัม

- วิตามินบีสอง             0.51           มิลลิกรัม

- ไนอาซิน                   4.10           มิลลิกรัม

- วิตามินซี                  29.93         มิลลิกรัม

         การรับประทานแกงไตปลานั้นมีวิธีดับความเผ็ดหรือทำให้บรรเทาได้ด้วยการรับประทานผักเหนาะหรือผักเคียงคู่กันไปด้วยจะลดความเผ็ดลงได้บ้าง แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหากับกระเพาะอาหารหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหารควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดไปก่อนจนกว่าจะหาย หรือทำรับประทานเองแล้วลดความเผ็ดลง

       เห็นไหมว่าอาหารพื้นบ้านของคนไทยนั้นมากมายและอุดมไปด้วยสารอาหารและยังเป็นยาไปในตัว ดีกว่าการรับประทานอาหารของฝั่งยุโรปที่เน้นหนักไปทางแป้ง น้ำตาล นมและเนย ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพได้

http://i1246.photobucket.com/albums/gg603/rittirukj2517/untitled11.jpg

ขอบคุณข้อมูลจาก  สถาบันการแพทย์แผนไทย http://group.wunjun.com/korat1/topic/429574-14109

 ประวัติแกงไตปลา

http://f.ptcdn.info/212/007/000/1373743417-o.jpg

         

          ไตปลา (ภาคกลาง) หรือ พุงปลา (ภาคใต้) เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองชนิดหนึ่ง โดยใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆมาหมักกับเกลือ โดยนำขี้และดีออกจากกระเพาะก่อน หมักไว้ 10 -30 วันก็ใช้ได้ ไตปลาที่หมักได้ที่จะเหลวและมีมันไหลออกมา นำไปทำเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มคล้ายน้ำพริกของทางภาคกลาง หรือแกงพุงปลาที่เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุง นอกจากนั้น ยังนำไตปลาไปผัดกับน้ำพริกแกง ใส่ปลาจิ้งจ้างและผัก เรียกไตปลาแห้ง

http://oj7tkw.bay.livefilestore.com2001.jpg

 
http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/120545.jpg

 
http://www.krungshing.com/forum/attachment.php?attachmentid=80665&stc=1&d=1308057483

 
http://market.taradkaset.com/_files/prakard/2012_03_05_192847_0_ELBcJfrD.jpg

         

      ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มนี้เป็นที่มาของอาหารชาววังที่เรียกว่าแสร้งว่าหรือแสร้งว่าไตปลา ซึ่งเป็นการปรุงแบบเดียวกับน้ำพริกไตปลาเพียงแต่ตัดไตปลาที่มีกลิ่นเหม็นคาวออกไป ใส่เครื่องปรุงอื่นลงไปแทน เช่น กุ้ง แสร้งว่านี้ เป็นอาหารที่มีในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 2

แกงไตปลา

          แกงไตปลา หรือแกงพุงปลาเป็นแกงที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีทั้งแบบที่ใสและไม่ใส่กะทิ แบบใส่กะทิเป็นที่นิยมในบางท้องที่ เช่นที่จังหวัดยะลา การแกงจะต้มกะทิแค่พอสุก ไม่แตกมัน น้ำพริกแกงประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง เกลือ พริกไทยเม็ด ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิ้น หอม กะปิ

          แกงไตปลาแบบชุมพรจะไม่ใส่ข่า กระชาย หอม กระเทียมในน้ำพริกแกง แต่จะซอยละเอียดใส่ลงในแกง เรียกแกงแบบนี้ว่าแกงไตปลาเครื่องซอย

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c4/Kaeng_tai_pla34.JPG/771px-Kaeng_tai_pla34.JPG

ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2